Friday, April 25, 2014

Empire Vampire 14 อดีต Chanbaek [NC 18+]


“ฉันอยาก...”เสียงของเขาดังขึ้นที่ข้างใบหูของผม มันยิ่งทำให้ผมขนลุกเข้าไปใหญ่ ถ้าจะกินปกติก็ไม่เห็นเขาทำแบบนี้กับผม ผมพยายามหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อเรียกสติตัวเองให้มากที่สุด กับเสียงสั่นๆ ของเขาที่ทำให้ผมสติกระเจิง


ปลายจมูกของชานยอลเหมือนกำลังสนุกกับการซุกไซร้ไปมาที่ใบหูลากเล่นไปจนถึงต้นคอ ทั้งๆ ที่ผมเกร็งตัวแทบแย่ ผมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะฝังเขี้ยวลงมา ผมระบายความกดดันนั้นด้วยการขบกัดที่ริมฝีปากตัวเอง มันเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมือเย็นของชานยอลลอดผ่านเสื้อของผมเข้ามาโอบเอวเอาไว้


“อื้อออ”เสียงครางในลำคอของผมดังขึ้น ไม่ใช่เพราะเขากัดคอผมหรอกครับ แต่เพราะเขาเงยหน้าขึ้นมาประกบปากจูบผมอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน


กลีบปากของเขาไล่เล็มริมฝีปากล่างของผมเหมือนกับกำลังดูดซับความหวาน มันเป็นที่เดียวกันที่ผมเพิ่งกัดไปเมื่อสักครู่ คงเพราะผมตกใจที่เขาเอามือเขามาจับเอวผม ฟันของผมเลยทำให้ริมฝีปากมีเลือดซิบออกมา

แต่ไม่นานเขาก็เปลี่ยนจากริมฝีปากล่างมาเป็นแทรกลิ้นเข้ามาหาผม ตอนนี้สมองผมเบลอไปหมด นี่ผมเหมารวมว่าเขาดื่มเลือดผมไปแล้วได้มั้ยนะ? มือผมเริ่มยกขึ้นมาวางไว้ที่ลำตัวของคนตรงหน้า พร้อมออกแรงผลักแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล

ชานยอลไล่ลิ้นวนไปมาเกี่ยวกระหวัดเล่นกับปลายลิ้นของผมเหมือนกำลังเล่นไล่จับซึ่งผมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเต็มประตู


“อื้ออ”ผมออกแรงเหมือนเคาะประตูไปที่อกหนาของเขา ผมเริ่มจะหมดลมหายใจแล้ว และเขาก็ปล่อยจูบออก สายตาของเขาทำให้ผมขนลุกอีกครั้ง มันทำให้ผมนึกถึงที่เขาพูดว่า “อยาก” เมื่อครู่ ความหมายของมันไม่ใช่ว่าต้องการดื่มเลือดหรอกหรือ


            “ถอดเสื้อออก”เสียงของชานยอลที่ผมได้ยินไม่ชัดเพราะเขาพูดมันออกมาพร้อมๆ กับการทำร่องรอยที่คอของผม

            ผมส่ายหน้านิดๆ เป็นการตอบปฏิเสธเขา ใครจะหน้าไม่อายถอดเสื้อตัวเอง และเพราะอย่างนั้น มือสองข้างของผมกำแน่นที่หน้าเสื้อตัวเอง ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เหมือนเด็กโดนขัดใจ ก่อนจะใช้มือของเขาจับชายเสื้อผมและดึงมันออกอย่างง่ายดายโดยการรูดมันออกไปทางศีรษะ


            เขายกยิ้มบางๆ ที่ผมเห็นแล้วรู้ชะตากรรมตัวเองแน่ๆ เขาไม่เคยยอมล้มเลิกความคิดของเขาง่ายๆ พอจัดการกับเสื้อของผมเรียบร้อยเขาก็จัดการถอดเสื้อของเขาโยนทิ้งไปบ้าง โดยที่สายตานั้นยังคงจาบจ้วงมาที่ร่างกายของผมไม่ขาด

            ผมหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหาทางหนีออก ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลก็ตาม แต่ผมก็จะพยายามให้ถึงที่สุด ผมใช้จังหวะที่เขากำลังจะกำจัดกางเกงของตัวเองออกกระโดดลงจากโต๊ะสูง แต่ก็ได้แค่นั้น แถมมันดูเหมือนเข้าแผนของเขาด้วยซ้ำ


            ชานยอลคว้าข้อมือผมได้ เขากดตัวผมให้นั่งลงกับพื้นแบบคุกเข่า ส่วนเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งสบายที่เก้าอี้ทำงานที่มีผนักพิงให้นุ่มหลัง


            ตรงหน้าผมมีท่อนเนื้อส่วนลับของชานยอลที่ไม่ควรต้องมาโชว์ตระหง่านอยู่ตรงหน้าผมแบบนี้ ผมหลับตาทันทีที่เห็นมัน ผมจำได้ดีว่ามันทำร้ายผมขนาดไหน


            “เป็นเด็กดีหน่อยสิแบคฮยอน ทำมัน”เสียงแข็งถื่อของเขาทำให้ผมตัวสั่น ผมหลับแน่นขึ้นพร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ ซึ่งผมคิดว่าชานยอลต้องรู้อยู่แล้วว่าผมไม่ทำ

           
            มือใหญ่ของเขาคว้ามือของให้มากุมที่ท่อนเนื้ออุ่นร้อน ซึ่งผมต้องผละออกทันทีแน่นอนแต่เพราะเขากุมมือของผมไว้อีกที เขาเริ่มจับมือผมขยับขึ้นลงบนแท่งเนื้อนั้น ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้าลืมตา


            “ทำสิ แล้วฉันจะไม่รุนแรงกับนาย”เสียงแผ่วเบาของเขาดังขึ้นข้างๆ ใบหน้าของผม เขาพูดออกมาเหมือนขอร้องผมมากกว่าบังคับ เพราะน้ำเสียงมันฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติ


            ผมลอบส่ายหน้าออกมาเพราะสมองผมกำลังพยายามควบคุมจิตใจ ผมไม่ควรหวั่นไหวกับคำพูดของเขา คนที่ผมเดาใจเขาไม่เคยออก แต่สุดท้าย...ร่างกายต่างหากที่ทรยศ


            มือหนาของชานยอลเลิกบังคับมือผม เขาเปลี่ยนมาเป็นติ่งไตเม็ดน้อยบนหน้าอกของผมแทน ปลายนิ้วของเขาวนไปมาจนผมรู้สึกเหมือนปวดท้องน้อยไปหมด ผมหายใจติดขัดและเริ่มกระพริบตาถี่ๆ เพื่อเปิดเปลือกตารับภาพตรงหน้า

            ท่อนเนื้อของชานยอลขยายขึ้นจนเต็มกำมือของผม ภาพใบหน้าของชานยอลไหวระริกเพราะน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาของผม ใบหน้าเขาดูพอใจไม่น้อยที่อุ้งมือของผมขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ ผมกระพริบตาไล่น้ำตาออกจากเบ้าเพื่อมองเขาให้ชัดขึ้น ลมหายใจของผมขาดห้วง เมื่อเห็นเขายิ้มพริ้มเหมือนกำลังจะขึ้นสวรรค์


“อ่ะ!!!”ยังไม่ทันที่ผมจะมองหน้าเขาเกินสองนาที ชานยอลก็ลุกขึ้นยืนและไม่ลืมยกตัวผมขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานในตำแหน่งเดิม เขาวุ่นง่วนอยู่กับกระปลดเปลื้องกางเกงของผม โดยมีมือของผมคอยปัดไม่ให้เขาทำงานได้ตามใจคิด

แต่ผลของมันก็เท่ากับศูนย์ ผมไม่เคยห้ามอะไรเขาได้เลย คนตัวสูงดึงกางเกงผมออกจนมันลงไปกองกับพื้น เขากำลังยิ้มเยาะให้ผมเพียงเพราะเขาเห็นส่วนอ่อนไหวของผมชูชันขึ้นตามอารมณ์


ชานยอลแทรกตัวมายืนตรงระหว่างขาผมอีกครั้ง และเพราะผมเอี้ยวตัวหลบหนีทำให้ส่วนกลางลำตัวของผมกับเขาถูไถกัน ผมอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน


มือข้างหนึ่งของชานยอลจับข้อเท้าของผมยกขึ้นสูงให้บั้นท้ายลอยขึ้นและพ้นออกมาจากขอบโต๊ะเล็กน้อย หัวใจของผมกระตุกวูบเมื่อส่วนปลายลำตัวของเขากำลังถูไถที่ปากทางด้านหลังของผม ดวงตาเบิกกว้างจ้องไปที่คนตัวสูงทันทีพร้อมกับส่ายหัวไปมา แทนการขอร้อง


เขาวางขาของผมลงเหมือนปกติก่อนจะคว้าข้อมือของผมขึ้นมาแทน ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าอุ้งมือของผมชุ่มแฉะไปด้วยน้ำขุ่นจากปลายยอดของคนตรงหน้า


“ช่วยตัวเองสิถ้าไม่อยากเจ็บ”ผมซึ้งกับคำพูดของคนตรงหน้า คำตอบของการยกมือของผมขึ้นมาคือเขาให้ผมเบิกทางช่วยตัวเอง ผมหลับตาสูดหายใจเข้าปอดจนเต็มก่อนจะเลื่อนนิ้วมือลงไปจ่อที่ปากทางอย่างสั่น

“อื้อ อ่ะ อ๊า”ผมค่อยๆ กดนิ้วนุ่มของผมลงไปสำรวจปากทางด้านหลังที่ตอนนี้เต้นร้อนตุบๆ ทักทายปลายนิ้วของผมอยู่ ผมขยับมันเข้าออกช้าๆ เพียงนิ้วเดียว ขยับไปตามแรงอารมณ์ที่ตอนนี้กำลังทยานพุ่งขึ้นเรื่อยๆ


ชานยอลไม่ได้ยืนดูอยู่เฉยๆ เขาโน้มตัวลงมาหยอกเย้ากับยอดอกของผม รวมถึงฝากรอยจูบไว้ทั่วทั้งแผงอก ก่อนที่จะค่อยๆ ฝากรอยไล่ขึ้นมายังลำคอ จนถึงใบหู


“.....อึก อื้อ”ผมพยายามกักกลั้นเสียงอารมณ์เต็มที่ มันน่าอายจะตายไปที่จะร้องออกมาให้เขาได้ยิน


“ร้องดังๆ ก็ได้ ทหารหน้าห้องเขารู้กันหมดแล้วว่านายเป็นเมียฉัน...ไม่ต้องอาย”สิ้นเสียงชานยอลผมยิ่งอาย ผมลืมนึกถึงทหารยามหน้าห้อง ป่านนี้ผมจะเป็นคนยังไงในสายตาของแวมไพร์พวกนั้น มันทำให้ผมใช้มืออีกข้างปิดปากตัวเองเพื่อระงับเสียง


“หื้อ อื้ออ”ชานยอลกำลังแกล้งให้ผมร้องครางออกมา เขาส่งนิ้วแข็งของเขาเข้ามาในช่องทางคับแน่นของผม ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ถอนนิ้วตัวเองออก ยิ่งกว่านั้นนิ้วของเขาขยับเข้าออกรวดเร็วจนนิ้วของผมหลุดออกมา

ผมทิ้งมือให้ล่วงลงกับขอบโต๊ะ หายใจขาดห้วงเหมือนกำลังจะขาดใจ ชานยอลเพิ่มนิ้วเข้ามาอีกและความเร็วไม่ได้ลดลงเลย มันเร็วมากเหมือนกับว่าเขากำลังทนไม่ไหว และแล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด ชานยอลถอนนิ้วมือของเขาออกมาและยกขาผมขึ้นสูงอีกครั้ง

ปลายท่อนเนื้อของเขากำลังกดลงมาที่ช่องทางแน่นร้อนของผม ที่ตอนนี้ผมควบคุมร่างกายตัวเองแทบไม่ได้ ปากทางของผมขยับปิดเปิดสลับกันเหมือนต้องการล่อของเขาเข้ามาเต็มเปา ผมกลั้นหายใจให้กับสัมผัสจากด้านล่าง มือสองข้างของชานยอลจับแน่นที่ข้อพับของผม แล้วยกตัวผมขึ้นเล็กน้อยให้เข้าที่กับสัมผัสที่เขากำลังจะสอดใส่


“โอ้ย...อื้อออ”ผมยกมือปิดปากพร้อมกันสองมือ กลั้นเสียงเล็ดลอดออกมาเต็มที่ แต่มือก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผมยังคงครางออกมาเป็นจังหวะให้กับการสอดใส่ของชานยอล เขาไม่ได้เข้ามารวดเดียว เขาค่อยๆ กดเอวลงเพื่อเข้าไปข้างใน และเมื่อผมเริ่มร้องเพราะช่องทางคับแน่นไม่อำนวยเขาก็ถอนแกนกายออกไปและเอาเข้ามาใหม่


“อย่ารัดฉันแบค...”เสียงของเขายิ่งทำให้อารมณ์ผมแทบจะระเบิด ผมเกร็งกระตุกไปหมดตรงช่องทางที่มีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาอยู่ตอนนี้ ขนาดร่างกายผมเองยังสั่งไม่ได้ ผมจะทำตามที่คุณบอกได้ยังไง


“โอ้ย! ฮึก ผมเจ็บ”ผมเด้งตัวขึ้นและร้องออกมาเมื่อเขาเลิกพยายามที่จะเข้าๆ ออกๆ และเปลี่ยนเป็นกดเอวตัวเองลงเรื่อยๆ ให้ท่อนเอ็นอุ่นจมลึกลงไป ชานยอลยกข้อพับของผมขึ้นสูงอีกให้ผมเอนตัวลงนอนท่าเดิม


“ก็บอกว่าอย่ารัด...”หลังจากเสียงเถียงของเขา ผมก็ไม่มีโอกาสได้ร้องห้ามอะไรต่อ เพราะผมจุกไปหมด ท่อนเนื้อร้อนใหญ่โตของเขาสอดเข้ามาจนสุดทาง เขาเลือกที่จะปักมันไว้อย่างนั้นและโน้มลงมาปรนจูบให้ผม


ผมรู้สึกถึงความคับแน่นที่อยู่ในตัว ไม่ลืมที่จะอายเพราะผนังช่องทางของผมตอดรัดและตุบๆ ให้เขาได้พอใจไม่ขาด ใบหน้าของชานยอลปริ่มสุขที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น เขาปล่อยข้อพับของผมลงพร้อมกับโอบเอวของผมขึ้นจนผมต้องยกแขนขึ้นกอดคอของเขา


คนตัวสูงยกตัวผมขึ้นจากโต๊ะทั้งๆ ที่ส่วนล่างยังคาอยู่ เขาหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ทำงานตัวเดิมโดนมีผมนั่งทับแกนกายเขาอยู่ข้างบน


ชานยอลมองหน้าผมเหมือนกำลังจะสั่งให้ทำบางอย่าง แต่ช้าไป ผมใช้แขนที่กอดคอเขาและปลายเท้าที่วางตรงขอบเก้าอี้เป็นที่ยึด ก่อนจะขย่มตัวเองขึ้นลงกระแทกท่อนเนื้อเข้าใส่ตัว

“อือ”เสียงครางแหบพร่าอย่างพอใจของชานยอลทำให้ผมเหมือนสติหลุด ทั้งๆ ที่ผมว่าตัวผมตอนนี้แทบจะไม่ใช่ผมอยู่แล้ว


ชานยอลใช้มือสองข้างแหวกเนื้อหนันตรงส่วนสะโพกของผมให้แยกออกเพื่อเขาจะได้สอดใส่ได้ลึกขึ้นตามแรงที่ผมขย่มอยู่ข้างบน ภาพในสมองผมขวาโพลนไปหมด เหมือนที่กำลังทำอยู่มันทำให้ตัวผมล่องลอยอยู่บนอากาศ



เสียงเก้าอี้เอี๊ยดอ๊าดดังไม่แพ้กับเสียงครางของเราสองคน ผมกระแทกตัวลงไปอย่างไม่กลัวเจ็บเพราะแรงอารมณ์ทั้งนั้นที่ขับเคลื่อนผมอยู่ ชานยอลเองก็สวนกลับเข้ามาตามจังหวะ เรากำลังจะขึ้นสวรรค์ด้วยกัน

ไม่นานเป็นผมที่แตะขอบสวรรค์ก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับการปรนเปรอเลยแม้แต่น้อย น้ำขุ่นพวงพุ่งออกจากปลายส่วนกลางลำตัวของผม น้ำเหนียวเหนอะหนะเลอะเปรอะเปื้อนทั่วทั้งหน้าท้องของผมและเขา

ก่อนที่แกนกายใหญ่โตของชานยอลจะกระแทกกระทั้นเข้ามาในตัวผมอีกสองสามทีและเขาก็ได้ขึ้นสวรรค์ตามผมมาติดๆ น้ำเหนียวของเขาไหลวนอยู่ในตัวผม บางส่วนก็แทรกออกมาตามแกนกายของเขา ไหลเลอะออกมาข้างนอก

***************** กลับไปเม้นกันนะคะ http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1122693&chapter=17 ************** 

Wednesday, April 16, 2014

Empire Vampire 11 คืนต้องห้าม Hunhan [NC 18+]


            โอเซฮุนทำท่าสูดลมหายใจ รับกลิ่นเลือดที่ลำคอผม และใช้ปลายนิ้วชี้บังคับให้ผมเอียงคอไปอีกด้าน เขาส่งยิ้มอย่างสมเพชมาให้ผม ริมฝีปากของเขายกยิ้มขึ้นจนผมเห็นความแหลมของฟัน


            “ไม่นะ โอเซฮุน นี่ฉันลู่หาน ลู่หานไง!”ผมใช้ความพยายามเฮือกสุดท้าย ผมกลัวว่าถ้าไม่พูดหรือไม่ต่อต้านอะไรออกไปบ้าง โอเซฮุนเขาต้องกัดผมแน่ๆ และดูเหมือนมันจะได้ผล โอเซฮุนชะงักไปนิดหน่อย เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผมจึงใช้จังหวะนั้น วิ่งหนีไปทางประตูห้อง


            “....!!! โอ้ย อย่า โอเซฮุนปล่อย”ผมถูกเขาคว้าเอวรั้งขึ้นสูงแล้วพาเดินมาที่เตียง เขาทิ้งผมลงที่เตียงนอนอย่างแรงจนผมรู้สึกปวด


            “ลู่หานไหน ฉันไม่รู้จัก แต่ก็นับถือในความกล้านะ ที่เข้ามาให้ฆ่าถึงที่”เขาพูดเสียงเรียบๆ สายตาเย็นชานั้นจ้องเขม็งมาที่ผมไม่มีการละไปไหน สิ่งที่เขาพูดผมพอจะเข้าใจว่าเขาอยากฆ่าผม แต่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตรงหน้านั้นผมไม่เข้าใจ


            โอเซฮุนยืนจ้องผมอยู่ที่ปลายเตียง มือของเขาก็ทำการปลดเปลื้องเสื้อออกจากตัว ถึงผมจะตกใจรอยแผลตามตัวของเขา แต่ก้ไม่เท่าที่เขากำลังคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงหรอก ถ้าจะฆ่าทำไมต้องถอดเสื้อแล้วทำหน้าหื่นกามขนาดนี้ด้วย


            “....จะทำอะไร! อย่านะ”ผมกำเสื้อของผมแน่น เมื่อมือของเขาทั้งสองข้างพยายามจะฉีกมันออก เมื่อผมกำเสื้อไว้เขาก็เปลี่ยนเป็นพยายามดึงกางเกงผมออกแทน จนผมต้องละมือจากเสื้อไปจับกางเกงแทนอีก เขาจ้องหน้าผมด้วยแววตาดุร้ายที่ไม่ใช่ตัวเขา

            เพี๊ยะ! สิ้นเสียงนั้น ผมหลับตาแน่นและรู้สึกชาๆ ที่แก้มข้างซ้าย นี่เขา “ตบ” ผมหรอ? ผมไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นอีก ไม่อยากเห็นหน้าคนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จัก แต่ถึงแม้ว่าจะหลับตาอยู่ น้ำตาก็ยังพากันไหลออกไปอยู่ดี แขนผมอ่อนแรงจนโอเซฮุนกระชากเสื้อผ้าผมขาดหลุดลุ่ยกระจายออกไม่เหลือชิ้นดี


            “ฮึก อึก อะโอเซฮุน โอ้ย!”ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อจะพยายามเรียกสติเขา แต่ก็ต้องจบลงด้วยเสียงร้องของความเจ็บปวด กรงเล็บของเขาลากผ่านหน้าอกผมลงไปถึงท้อง ไม่นานเลือดหยดน้อยๆ ก็พากันไหลออกมาจากรอยแผล ผมเจ็บ และไม่อยากจะคิดถึงเรื่องต่อจากนี้ว่าผมต้องเจออะไรบ้าง

            “พวกแกฆ่าซูจอง! พวกแกฆ่าคนรักของฉัน!”เขาตะคอกผมเสียงแหบพร่า ผมรู้ว่าที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะอดีตที่ฝังใจของเขา และเพราะผมมีเลือดของไลเคนท์ทำให้เขาคลั่งขนาดนี้ แต่ทำไมเขาต้องเหมารวมว่าไลเคนท์ทั้งหมดไม่ดี ตอนที่เขามีสติดีอยู่ เขาเคยดีกับผม เขาคอยบอกว่าจะดูแลผม


            “ฮึก โอเซฮุน ฮึก ฮือ ฉันลู่หาน...คนที่นา...อื้อ”เขาไม่เคยรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด ริมฝีปากของเขาเบียดเข้ามาจูบปากผมอย่างรุนแรง ปากผมถูกบดขยี้จนได้รสเลือด โอเซฮุนพยายามดูดดุนแผลที่ริมฝีปากของผมเพื่อรับเลือดไป ก่อนจะถอนจูบออก


            “เลือดสกปรก!”เขาเช็ดหยดเลือดของผมออกจากมุมปาก พอพูดเสร็จเขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมากดย้ำที่ขอบแผลบริเวณริมฝีปากผม


            “โอ้ย! ฮึก ฮือฮึก”ผมได้แต่ร้องบอกอย่างเจ็บปวดและส่งสายตาอ้อนวอนเขาให้หยุด แต่ก็คงไม่ได้ผล สีหน้าเขาดูภาคภูมิใจที่ผมเจ็บ ที่ผมร้องไห้ ..........โอเซฮุนคนเดิมหายไปไหน

            ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบหนีเขา พยายามยกท่อนขาเพื่อดีดดิ้นให้เขาออกไปห่างๆ จากผม แต่ผลของมันเป็นศูนย์แถมติดลบอีกต่างหาก โอเซฮุนจับขาผมให้อยู่นิ่งๆ แถมกรงเล็บฝังลงบริเวณที่เขาจับอีก

            “ดิ้นนักใช่มั้ย!”สิ้นเสียงขู่ของเขา ข้อเท้าของผมก็ถูกรัดไว้ด้วยโซ่ที่เคยล่ามเขาไว้ เขาใส่โซ่ที่ขาผมทั้งสองข้าง แรงยึดของโซ่ทำให้ผมปวดไปทั้งท่อนขา เขาแยกขาผมออกกว้างก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลาง

            ภาพในตาของผมพร่ามัวไปหมด ร่างกายของผมที่ไม่มีอะไรปกปิด แปดเปื้อนไปด้วยรอยเล็บรอยข่วนต่างๆ นานา ที่เขาทำไว้ ร้ายที่สุดคือสายตาของคนที่มองผมอยู่ สายตาของเขาทำให้ผมข่มตาลง หัวสมองพลันหวนนึกถึงภาพในอดีตของคนตรงหน้า ที่ผมเห็นเขาร่ำไห้เพราะเสียคนรักไป ภาพที่เขาเจ็บปวดและตัดมาเป็นภาพที่เราสองคนมีความทรงจำที่ดีต่อกัน ภาพที่เขาจูบผมอย่างแผ่วเบา สิ่งเหล่านั้นบีบคั้นออกมาเป็นน้ำตาและเสียงสะอื้นดังแข่งกับสายฝนที่ตกลงมาในตอนนี้


            มือหยาบเลื่อนมาบีบเค้นที่รอบเอวเลื่อนลงไปที่สะโพก มันทำให้ผมเบิกตากว้างอีกครั้ง


            “อะอะ โอเซฮุน อื้ออ”โอเซฮุนโน้มตัวมาปรนจูบ มอบความอึดอัดและเจ็บปวดให้เมื่อกลีบปากแข็งของเขาโดนที่แผลช้ำ ชั่วพริบตาที่เขาจูบผม เขาก็เปลื้องกางเกงผ้าเนื้อดีออกจากตัว และยืดตัวขึ้นคร่อมผมไว้ ผมพยายามเอียงหนีสัมผัสจาบจ้วงรุนแรงของเขา แต่ทำไปก็เหมือนไร้ค่า ผมไม่มีหนทางที่จะหนีออกไปได้เลย


            แผ่นหลังแอ่นสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายยอดอกถูกบิดขยี้อย่างไม่ปราณี นิ้วมือร้อนผ่าวลากเลื่อนต่ำลงเปลี่ยนจุดหมายไปเป็นส่วนกลางลำตัวไวสัมผัสแล้วชักขึ้นลงด้วยแรงบีบรุนแรงที่ไม่ได้ปราถนาให้เกิดความรัญจวน


            “ไม่...ฮึก ไม่นะ ฮือ”ผมพยายามพร่ำบอกเขาพรางส่ายหน้าไปมาไม่หยุดนิ่ง ผมรู้สึกถึงความแค้นของเขา เหมือนว่าเขาอยากจะฆ่าผมให้ตายคามือ

            “โอ้ย!!...”เสียงร้องของผมดังขึ้น เมื่อความรุนแรงทวีขึ้นทุกขณะ มือข้างที่บดขยี้ติ่งไตบนอกก็รุนแรงจนเหมือนจะให้มันหลุดออกมาคามือ ส่วนมือที่กุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ก็บีบรัดจนผมแทบจะขาดใจ


            ไม่นานเขาก็ปล่อยมือออกจากตัวผมทั้งสองข้าง และยังไม่ทันที่ผมจะตกตวงลมหายใจได้ทั่วปอด มือใหญ่ก็บีบเค้นที่เนื้อสะโพกและต้นขาของผมอีกครั้ง ทุกทางที่เขาลากผ่าน ไม่เคยมีที่ไหนที่จะไม่ฝากรอยแดงช้ำไว้บนร่างกายผม มันเจ็บ จนชินชาไปหมดแล้ว


            น้ำตาเม็ดโตล่วงลงเมื่อเขาจับตัวผมให้พลิกหันนอนคว่ำลง แล้วยึดบั้นท้ายเอาไว้แน่น สายน้ำตาล่วงลงยังหมอนหยดแล้วหยดเล่า เหมือนพวกมันจะรู้ชะตากรรมของผมและพากันไหลหนีไป

            มือหยาบแหวกเนินเนื้อต้นขาด้านหลังให้แยกออกห่างจากกันแล้วกระแทกส่วนกลางลำตัวของเขา อัดรวดเดียวเข้าไปทั้งหมดภายในครั้งเดียว


            “อ่า อา...”เสียงครางต่ำของเขาดังขึ้นเมื่อท่อนเนื้อแข็งของเขาเข้าไปในตัวผม ส่วนผมนั้นทำได้แค่กัดริมฝีปากระงับความรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนกับว่าร่างกายถูกแยกให้แตกสลาย กัดจนเลือดผุดออกมาคาวคุ้งในปากผม


            “เจ็บ!!!! โอ้ย เอาออก ฮึกฮือ”และผมก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขากระแทกท่อนเนื้ออุ่นให้ลึกลงไปอีก โดยไม่สนว่าปากทางของผมจะฉีกขาด ผมเจ็บจนรู้สึกได้ว่าบริเวณนั้นมีเลือดไหลออกมา ท่อนเนื้อใหญ่ทะลวงผ่านช่องทางตีบแคบเข้ามาจนสุดทาง โดยไม่มีการเบิกทางหรือช่วยขยายให้ช่องทางเคยชิน

            วินาทีนี้ผมแทบจะไม่ได้สติ ความเจ็บปวดแล่นริ้วเข้ามาประทะผมแทบทุกทาง ได้แต่ปล่อยให้หน้าซุกอยู่ที่หมอนชุ่มเหงื่อตรงหน้า ภาวนาให้เขาอย่าทำร้ายผมไปมากกว่านี้เลย

            “หึ ไลเคนท์อย่างนายก็มีดีนี่”เสียงโอเซฮุนเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทผมอีกครั้ง เขาทำร้ายผมแม้กระทั้งคำพูด แทบไม่หลงเหลืออะไรที่บ่งบอกว่าเขาคือโอเซฮุนคนที่ผมรู้จัก


            “ฮึก เมื่อไหร่ มะ เมื่อไหร่จะฆ่าฉันล่ะ? ฮึก ถ้าจะทำแบบนี้ ค่ะฆ่าฉันเลย”ผมพยายามเปล่งเสียงพูดออกไปให้เขาได้ยิน และดูเหมือนเขาก็ฟังผมอยู่ อุ้งมือเขาบีบเค้นที่เนื้อสะโพกของผมอย่างแรงก่อนจะตอบ


            “ไม่ต้องห่วง ฉันฆ่านายแน่ จะเอาให้ตายคาอกเลยไง”สิ้นเสียงของเขาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าลงมา เหมือนกับเป็นคำพิพากษาที่เขาให้กับผม โอเซฮุนจับสะโพกยึดแน่นก่อนจะสวนท่อนเนื้อใหญ่เข้าออกที่ช่องทางคับแน่นอย่างรุนแรง เสียงสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดของผมดังแข่งกับสายฝนยามค่ำคืน อุณภูมิร้อนระอุ ทั้งๆ ที่ฝนน่าจะทำให้เย็นสบาย


            สมองผมเบลอไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดที่เขามอบให้มันไม่เคยจะลดลงเลย ความรุนแรงถาโถมกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับพายุฝนภายนอก แม้ว่าสมองจะไม่สามารถสั่งการให้ผมขยับไปไหนได้ แต่จมูกผมยังคงสูดรับอากาศเพื่อต่อชีวิต ร่างกายโยกคลอนไปข้างหน้าทุกครั้งที่เขาขยับสอดใส่เข้ามา เสียงสะอื้นขาดห้วงของผมก็ดังไม่ขาดสาย


            โอเซฮุนยังคงพยายามดุนดันท่อนเนื้อเอ็นร้อนเข้าไปอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าเท่าไหร่เขาก็ไม่สาแก่ใจ เขาเพิ่มแรงอัดจนสะโพกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนที่ซอกขา ผมไม่อยากรับรู้ว่ามันจะเป็นเลือดจากแผลหรือน้ำรักของเขา ถึงตอนนี้ผมอยากจะตายไปมากกว่าที่จะมารับรู้เรื่องเลวร้ายที่เขากำลังยัดเยียดให้

            “พะพอแล้ว”ผมไม่รู้เวลาล่วงผ่านมานานแค่ไหน เรียวขาของผมสั่นระริกทุกครั้งที่เขาขยับกายเข้าออกอย่างรุนแรง แทบจะตั้งไว้ไม่อยู่ แต่มือของคนข้างบนก็รั้งไว้ไม่ให้ตก ทั้งเจ็บแสบทั้งระบม เสียงฟ้าผ่าแลบจนผมเห็นแสงสะท้อนเข้ามาในห้อง และคงเป็นแสงสุดท้ายที่ผมเห็นหลังจากที่สติผมจะหายไป

>>กลับไปอ่านต่อแล้วก็เม้นที่  http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1122693&chapter=13  นะคะ << 

Wednesday, April 9, 2014

Empire Vampire 09 ใจร้าย Chanbaek [NC 18+]


             


          ถึงตอนนั้นผมก็เพิ่งรู้ว่าที่ผมกำลังทำมันได้ผล แบคฮยอนไม่ได้ตอบอะไรอย่างเคย เขาหันหน้าหนีไปทางอื่น จนผมรู้สึกเหมือนกำลังพูดคนเดียว


            ผมบีบคางเล็กให้หันมาจ้องหน้าผมอีกครั้ง ไม่บอกก็รู้ว่าเขาต้องเจ็บแน่นอน แต่ผมไม่สน เวลาผมพูด ต้องมีคนฟัง! และถ้าไม่ฟังมันต้องเจอดี


            “....อื้อ”ผมก้มลงปิดปากแบคฮยอนด้วยริมฝีปากผม ทั้งเม้มกลีบปาก ทั้งดูดดึงมอบความอึดอัดและความเจ็บปวดให้แก่เขา ไม่เปิดโอกาสให้ได้รับลมหายใจ จนร่างเล็กต้องครางเสียงร้องเพื่อท้วงติง


            ผมไม่ได้สนใจเสียงในลำคอของเขาสักนิด ผมฟังไม่ออกนี่ว่าเขาพูดว่าอะไร มือน้อยๆ ของแบคฮยอนทั้งสองข้างยกขึ้นมาดันไหล่ผมให้ออกห่าง หวังจะให้ผมละปากออกเพื่อต่อลมหายใจ แต่แรงแค่นั้นผละผมไม่ออกหรอก


            “โอ้ย!”เสียงร้องของผมมันดังขึ้นพร้อมๆ กับความโมโหที่เข้ามา เขากัดริมฝีปากผม ผมละริมฝีปากออกแล้วยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ไหลออกมา


            แบคฮยอนกำลังตักตวงลมหายใจเข้าปอดอย่างเร่งรีบ น้ำตาของเขาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ผมมองสีหน้าของเขาด้วยความโกรธแต่ในความโกรธนั้น มันก็ยังมี “ความสะใจ”


            ผมยึดแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนไว้เหนือหัวของเขาด้วยมือข้างเดียวของผม แบคฮยอนหันหน้าหนีผมตามเคย เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำ หึ ผมขำในลำคอให้กับความอวดดีของเขา


            นอนเฉยๆ แบบนี้ให้ตลอดแล้วกัน ผมก้มลงลิ้มลองความหอมที่ลำคอของเขา ลากลิ้นที่รอยเขี้ยวให้เขาได้รู้สึก และเขาก็สะดุ้งทุกครั้งที่ผมลากลิ้นกลับมาที่แผลนั้น เมื่อผมเริ่มที่จะขบเม้มตามลำคอขาวนั้น เสียงสะอื้นของเขาก็เริ่มขึ้น



            “ฮึก...อึกฮึก”

            “อย่าเพิ่งร้องสิ เอาไว้ร้องตอนที่ฉันทำมากกว่านี้!”ผมเงยหน้ามองผลงานของผม ใช่ เขาร้องไห้ น้ำตาถูกปล่อยออกมาจากดวงตาใส สิ่งเดียวที่ผมไม่พอใจตอนนี้คือ “เขายอมผม” เขานอนนิ่งรับการกระทำของผมโดยไม่ปริปากด่าทอผมแม้แต่น้อย มันง่ายไปหน่อย ผมไม่ชอบ


            ผมปล่อยมือออกจากข้อมือของเขา แล้วเลื่อนมือลงมาบรรจงปลดกระดุมเสื้อของเขาออก หน้าตาเขาก็ดูแตกตื่นอยู่บ้าง มือของเขาย้ายมาจับมือผมไว้พรางส่ายหน้า


            “หึ จะไม่ให้ทำก็ตอบคำถามที่ฉันถามมาสิ นายต้องเรียกฉันว่าอะไร!”ผมปัดมือของเขาออกพร้อมกับโยนเสื้อของเขาที่ผมกระชากมันออกทิ้งลงจากเตียง


            ผิวกายสีขาวเนียนของเขากระจ่างแก่สายตาผม ร่างบางขดตัวหนีสายตาผมอย่างรวดเร็ว แต่...ผมเร็วกว่า  ผมใช้จังหวะที่เขาตะแคงตัวหนีผม กระตุกกางเกงผ้าเนื้อดีของเขาให้หลุดออกจากสะโพก และดึงมันออกให้พ้นๆ ตา กางเกงขายาวของคนตัวเล็กปลิวลงไปข้างเตียงอย่างรวดเร็ว


            “อ๊ะ...คุณ อย่า”

            ผมจับตัวเขาให้นอนหงายตามเดิมแล้วแทรกเข่าไว้ตรงหว่างขาเขา จะได้ขยับพลิกตัวหนีผมไม่ได้อีก แบคฮยอนไม่ได้เปลือยเปล่าทั้งตัวหรอกครับ ผมยัง “ใจดี” เหลือกางเกงซับในตัวจิ๋วไว้ให้เขา เผื่อว่าเขาจะ “อาย”


            “ฮึก ยะอย่า ผม ผม...”

            “พูดได้แล้วหรอ?”ผมถามเขาหลังจากที่ได้ยินเสียงเขาหลุดออกมาจากปาก คนตัวเล็กยกมือขึ้นปาดน้ำตาอยู่ไม่ขาด ผิวเขาเริ่มแดงขึ้นเป็นรอยจ่ำๆ ทุกที่ที่ผมลากมือผ่าน


            ไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงจะดูแลตัวเองดีมาตลอด ผู้ชายอะไรจะผิวเนียนขาว “ทุกส่วน” ขนาดนี้ ถ้าเริ่มสัมผัสล่ะก็บอกได้คำเดียวว่า “หยุดไม่อยู่”
           
           
            ผมกระชากร่างข้างใต้ที่ขยับตัวออกห่างจากผมให้เข้ามาใกล้มากขึ้น แล้วใช้ริมฝีปากร้อนเบียดจูบคนตัวเล็กอย่างจาบจ้วง แบคฮยอนกระเสือกกระสนหันหน้าหนีผมอีกตามเคย ผมละริมฝีปากออกแล้วจับสันคางเขาให้หันหน้าตรงมาทางผม


            “ถ้ากัดฉันอีก นายเจอดีแน่”ผมกล่าวขู่เขาไว้ก่อนจะเบียดจูบลงไปอีกครั้ง คราวนี้ผมออกแรงบีบสันคางคนตัวเล็กให้ปากเขาอ้าออก เพื่อผมจะได้ส่งปลายลิ้นชื้นเข้าไปตักตวงความใคร่ได้สะดวกๆ เสียงครางปะปนไปพร้อมๆ กับเสียงสะอื้นของแบคฮยอน


            การลงทุนต้องหวังกำไรเสมอ และตอนนี้ผมกำลังตักตวงกำไรนั่นอยู่ ถึงแม้เป้าหมายจะยังไม่ลุล่วง แต่ผมคิดว่ามันต้องสำเร็จ ระหว่างรอผลสำเร็จนั้น จะปล่อยให้กำไรชิ้นโตตรงหน้าหลุดมือไปได้ยังไง

            ผมละริมฝีปากออกแล้วลากลิ้นลงมาเรื่อยๆ เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ติ่งไตสีชมพูบนยอดอก

            “ฮึก อย่าครับ โอ้ย!”เสียงแบคฮยอนร้องดังขึ้นเพราะขณะที่ผมลากลิ้นผ่านส่วนต่างๆ ผมไม่ลืมที่จะฝากรอยฟันไว้ตามตัวเขา ผมแค่กัดเขาให้เจ็บปวดเฉยๆ


            “เจ็บ...ฮึก”มือน้อยของเขาเริ่มออกแรงผลักผมให้ออกห่าง แต่แรงแค่นี้ยังอ่อนหัด ผมไม่สนใจการต่อต้านของเขา ยอดอกสีชมพูชูชันอยู่ตรงหน้า หึ ที่แท้เขาก็มีอารมณ์เหมือนกัน


            ผมครอบครองยอดไตนั้นไว้ด้วยริมฝีปาก ดูดดุนและขบกัดมัน ขยับไปตามแรงอารมณ์ มืออีกข้างก็บีบคลึงยอดอกอีกข้างของเขา

            “อื้อ จะเจ็บนะ”เรียกเสียงของแบคฮยอนให้ออกจากปากของเขาได้ ผมเพิ่มแรงทั้งปากและนิ้วขึ้นอีก ร้องอีกสิ!


            “อ๊ะ!”ผมเปลี่ยนเป้าหมายของมือขาวเลื่อนต่ำลงไปที่จุดกลางลำตัวของเขา อุณหภูมิในห้องแทบร้อนขึ้นมากระทันหัน ผมบีบคลึงจุดอ่อนไหวของเขาผ่านเนื้อผ้าสีขาวบาง ปลุกเล้าอารมณ์ให้เขาอย่างชำนาญ และไม่นานมันก็ขยับขยายขึ้นตามขนาด


            ผมไม่พลาดจ้องมองใบหน้าแดงก่ำเสียวซ่านของเขาหรอกครับ ยิ่งผมมองเขาก็ยิ่งหลบหน้า


            “ว่าไง...คิดออกรึยัง?”ผมก้มลงไปกระซิบข้อความข้างหูเขาให้ได้ยินชัดๆ มีเพียงเสียงสะอื้ดเล็ดลอดออกมาจากลำคอเขาเท่านั้น ว่าถึงต้นคอของเขารอยเขี้ยวของผมเริ่มจางไปอีกแล้ว รอยฟันของผมตามเนื้อตัวเขาก็เหลือเพียงแต่จ่ำแดงๆ บ่งบอกถึงการลากผ่านเท่านั้น


            แน่ล่ะครับ เขาเป็นแวมไพร์ แผลจางหายไปเองมันเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ผมมั่นใจคือ “ความทรมาน” และ “ความเจ็บปวด” ที่เขาได้รับไปจากผมนั้น มันไม่ได้หายไปด้วย


            “ถ้าไม่รู้ ฉันจะไม่รอคำตอบของนายแล้วนะ...แบคฮยอน”ผมพูดบอกเขาเสียงเรียบ ผละออกจากตรงหน้าเขาแล้วลุกขึ้นนั่ง นิ้วมือเกี่ยวเอากางเกงซับในตัวจิ๋วของเขาถกลงออกจากสะโพก ร่างบางตาโตทำท่าจะลุกขึ้นนั่งทันที แต่ผมผลักไหล่เขาให้นอนลงตามเดิม


            ก๊อกๆ ก๊อกๆ  เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขณะที่ผมกำลังลากกางเกงตัวจิ๋วของเขาลงจากสะโพก      ขัดจังหวะชะมัด

            “ท่านไพตอนครับ! ท่านเชอร์วีนให้มาถามเรื่องคืนต้องห้ามครับ”เสียงทหารของผมดังผ่านประตูห้องเข้ามา ผมทำหน้าเซงเล็กน้อยเพราะทหารตนนั้นเรียกตำแหน่งของผมที่เป็นคำตอบที่แบคฮยอนต้องการ


            “ไปรอฉันที่ห้องทำงาน!”ผมตะโกนบอกทหารของผม และหันหน้ากลับมาที่ร่างบางตรงหน้า


            “พะไพตอน....ผมต้องเรียกคุณว่าไพตอน”แบคฮยอนรีบส่งคำตอบมาให้ผมทันที ผมแอบขำและยิ้มมุมปากให้เขา จนสีหน้ามีความหวังของเขาเหือดหายไปอีกครั้ง


            คิดว่าผมจะหยุดหรอ? มาขนาดนี้แล้วน่ะนะ ผมล๊อกตัวเขาไว้ด้วยเข่าที่แทรกเข้าไปกลางหว่างขา ผมถอดเสื้อของตัวเองโดนทิ้งไป และนั่นทำลายความหวังของแบคฮยอนจนหมดสิ้น ผมทำให้เขาคิดว่าคำตอบของเขาไม่ได้มีผลให้ผมหยุดการกระทำนี้


            น้ำตาพรั่งพรูไหลออกมาจากขอบตาบางอีกครั้ง ร่างบางร้องไห้ส่ายหน้าเบาๆ ส่งสายตาผิดหวังมาให้ผม ซึ่งมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับผมเลย ผมไม่สน


            ผมออกแรงแยกขาเรียวออกจากกันหลังจากกำจัดกางเกงซับในตัวน้อยนั้นพ้นร่างกายร่างบาง ตอนนี้แบคฮยอนเปลือยเปล่านอนบิดหนีผมไปมาอยู่ตรงหน้า


            “อ๊ะ คุณ ฮึก...ผมตอบไปแล้ว ทะทำไมยังไม่....อื้อ”แบคฮยอนใช้มือปัดป่ายมือของผมที่ยุ่มย่ามอยู่กับส่วนกลางลำตัวของเขา มันเริ่มร้อนและขยายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต่างจากของผม

            ผมลูดมือขึ้นลงเป็นจังหวะที่ท่อนเนื้ออุ่นของร่างข้างใต้ น้ำขุ่นเริ่มปริ่มออกมาจากปลายยอดสีชมพู ผมยิ้มเยาะให้กับความไวของเขา


            “ไม่เท่าไหร่ ก็จะทนไม่ไหวแล้วหรอ”ผมแกล้งพูดให้เขาอาย แต่มันก็เป็นความจริง สีหน้าเขาบ่งบอกถึงแรงอารมณ์ที่ผมยัดเยียดให้เขา การหอบหายใจของเขามันทำให้ผมเริ่มจะร้อนผ่าวที่ส่วนกลางลำตัว

            ผมละมือออกจากจุดอ่อนไหวของเขามาปลดกระดุมกางเกงผ้าเนื้อหนาของผมแทน และจังหวะที่ผมกำลังจะกำจัดกางเกงออกจากร่างกาย แบคฮยอนก็พลิกตัวหนีจากผม ซึ่งผมไม่ได้ขัดอะไร อยากหนีก็หนีไป จะไปไหนได้ในสภาพแบบนั้น

            ผมลูดกางเกงออกจากขาได้ก่อนที่ขาอีกข้างของแบคฮยอนจะลงจากเตียง ผมจับข้อเท้าของเขาได้ทัน และลากเขากลับมาพร้อมกับแรงต่อต้านที่เขามีเล็กน้อย ถึงมันจะสุดแรงที่เขามี แต่สำหรับผมมันยังน้อยนัก


            “ฮึก อย่าทำผมเลย ฮึกฮือคุณปล่อยผมไปเถอะ”แบคฮยอนเริ่มปริปากอ้อนวอนขอร้องผมมากขึ้นเมื่อผมจับเขานอนหงายท่าเดิมตรงหน้าผม เรียวขาขาวของเขาถูกผมจับแยกออกอีกครั้ง ผมจับขาเขายกขึ้นให้สะโพกลอยขึ้นเหนือเตียงนอน แล้วจับให้ขาเขาพาดที่เอวของผม


            ร่างบางสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมใช้มือข้างหนึ่งกำท่อนเนื้ออุ่นของเขาและเริ่มจังหวะมือลูดขึ้นลงอีกครั้ง น้ำรักของเขาที่ไหลเป็นคราบอยู่ทำให้มือของผมไม่ฝืดมากนัก ทุกการกระทำของผมและใบหน้าแสดงอารมณ์ของแบคฮยอนอยู่ในสายตาของผมตลอดเวลา


            “อ๊ะ ฮึก คะคุณ”แบคฮยอนร้องท้วง พยายามดิ้นออกห่างจากผม แน่ล่ะ มันเป็นเพราะส่วนกลางลำตัวของผมขยายตัวขึ้นชนกับช่องทางด้านหลังของเขา ใบหน้าของเขาแดงเหมือนใกล้จะระเบิด


            “อื้อออ”ผมใช้นิ้วชี้กดลงที่ส่วนปลายของจุดอ่อนไหวเขา เรียกเสียงร้องเสียวได้อย่างดี แบคฮยอนบิดตัวเร่าๆ อยู่ตรงหน้าผม ทำให้ส่วนคับแน่นของผมถูไถไปกับช่องทางของเขาโดนไม่รู้ตัว อย่างนี้มันยั่วกันชัดๆ

           
            ไม่นานร่างตรงหน้าก็กระตุกปล่อยน้ำขุ่นคาวออกจากส่วนปลายของท่อนเนื้ออุ่น ไหลทะลักออกมาเลอะหน้าท้องของผมเต็มไปหมด ผมละมือออกจากส่วนนั้นของเขา มาเล่นน้ำรักของเขาแทน ผมไล่นิ้ววนให้ชุ่มน้ำขาวขุ่นนั้น แล้วจับข้อพับข้างหนึ่งของเขายกขึ้นให้ช่องทางสวาทปรากฏแก่ตาได้ชัดเจนขึ้น


            “มะไม่ ไม่นะ ฮื่ออ”แบคฮยอนร้องห้ามผมอีกครั้ง เมื่อผมพยายามเบียดแท่งนิ้วแข็งเข้าไปเบิกทางด้านหลังของเขา ช่องทางเล็กของแบคฮยอนออกแรงต่อต้านปลายนิ้วผม


            “จะเจ็บ อ๊ะ ฮื่อ ฮึก อึก”เสียงครางหลายคำร้องต่อๆ กันออกมาจากปากคนข้างใต้ผม เพราะผมพยายามทะลวงนิ้วให้เข้าไปข้างในให้ได้ จะต้านผมได้สักเท่าไหร่กัน และมันก็สำเร็จ ผมส่งนิ้วชี้ทั้งแท่งเข้าไปภายในตัวแบคฮยอนได้ ข้างในทั้งร้อนทั้งแน่น ผมแทบอยากเข้าไปขยับกายอยู่ในนั้นแรงๆ ไม่ไหว

            ผมไม่ได้รอให้เขาได้ปรับตัวอะไรทั้งสิ้น ผมออกแรงกระแทกปลายนิ้วเข้าออกที่ช่องทางนั้นอีกไม่กี่ครั้งก็ดึงออก


            “ฮึก ผะผมเจ็บ พอได้แล้ว”แบคฮยอนยังคงอ้อนวอนผมอยู่ แต่ผมบอกได้คำเดียวเลยว่ามัน “สายเกินไปแล้ว”

            ผมใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างเปิดช่องทางด้านหลังของเขาให้แยกออก แล้วจ่อความเป็นชายของผมที่ปลายทาง ผมกดสะโพกลงไปให้ส่วนคับแน่นของผมเข้าไปในนั้น แต่....


            “โอ้ย...ไม่ได้นะ อื้อออ ผมเจ็บ”มันเข้าไปได้แค่ส่วนหัวเท่านั้น แบคฮยอนร้องลั่นว่าเขาเจ็บ ไม่ต่างกับผม ผมถูกเขารัดแน่นจนแทบจะคลั่ง ขยับเข้าไปอีกก็ไม่ได้ มันแน่นจนผมเกือบจะแตะขอบสวรรค์ ผมดึงท่อนเนื้อของผมออกจากช่องทางคับแน่นนั้น ส่วนปลายสีแดงปรากฏเด่นในสายตาผม สีเดียวกับช่องทางของแบคฮยอน

            “ของนาย จะแน่นไปไหน”ผมยกมือเลือนไปหาเขาตรงใบหน้าและส่งเข้าไปในโพรงปากเขา

            “อึก อื้อ”ผมละเลงปลายนิ้วให้ชุ่มน้ำลายแบคฮยอนแล้วยกมันกลับมาจ่อที่ช่องทางด้านหลังของเขาอีกครั้ง ก่อนจะแทรกนิ้วเข้าไป นิ้วแรกก็คับแน่นตอดรัดนิ้วของผมเหมือนเคย การเต้นของกล้ามเนื้อของเขาทำผมแทบคลั่ง มือข้างที่เหลือผมเลือกที่จะเอื้อมไปบดขยี้ยอดอกของแบคฮยอนแทนที่จะจับท่อนเนื้อของผม ผมกลัวมันจะถึงก่อนที่จะได้เข้าไปข้างใน


            “หะหะ คุณ พะ อื้ออ ผมเจ็บ”ผมเพิ่มนิ้วส่งผ่านเข้าไปในตัวแบคฮยอนเป็นสองนิ้ว ขืนเบิกทางแค่นิ้วเดียวตัวผมก็เข้าไปไม่ได้เหมือนเมื่อกี๊นี้แน่ๆ ผมชักนิ้วเข้าออกกระแทกกระทั้นแรงๆ ให้มันเบิกกว้างพอที่ผมจะเข้าไปได้เร็วๆ ผมแทบจะทนไม่ไหวแล้ว


            จากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว เมื่อสองนิ้วสามารถขยับเข้าออกได้เริ่มจะสะดวกผมก็เพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว เผื่อว่าส่วนนั้นของผมจะยังใหญ่เกินไปไม่สามารถเข้าไปได้อีก แต่พอนิ้วที่สามมันฝืดจนใบหน้าแบคฮยอนเหยเกย ไม่ต้องสงสัยว่าร้องไห้รึเปล่า น้ำตาไหลไม่ขาดสายตั้งแต่ผมเริ่มแล้ว


            ผมชักมือออกและจับท่อนเนื้ออุ่นของผมจ่อที่ปลายทางทันที

            “คุณไพตอน คะคุณ ผมขอ ระร้อง อ๊ะ อย่า อื้ออ”สมองผมแทบจะแปลคำพูดของแบคฮยอนไม่ออก มันถูกครอบงำไปด้วยความใคร่ ผมกดสะโพกลงไปที่ช่องทางแน่นอีกครั้ง คราวนี้ผมพยายามดุดันเข้าไปจนได้กลางท่อนอุ่น ขนาดผมยังไม่ได้เริ่มขยับ การตอดรัดของแบคฮยอนก็ทำให้ผมเสียวจนปลายท่อนชุ่มไปด้วยน้ำรักที่เอ่อออกมา


            “ผะผมเจ็บ หะหะ โอ้ย!”ผมกั้นใจกระแทกท่อนเนื้อให้เข้าไปจนสุดด้าม เหมือนผมกำลังจับขอบสวรรค์ไว้ทั้งสองมือแต่ยังไม่ได้ขึ้นไป ผมซี๊ดปากตัวเองด้วยความเสียว ช่องทางตอดรัดเต้นตุบๆ รอบส่วนกลางลำตัวของผม ทั้งร้อนทั้งแน่น


            “หึ ร้องดังๆ นะแบคฮยอน”ผมกระซิบบอกเขา ก่อนจะวางท่อนแขนทั้งสองข้างที่ข้างตัวเขา ปรับท่าให้เตรียมที่จะขยับขย่มตัวเข้าไปในตัวเขาได้ง่ายๆ

            “อ๊ะ....อ๊ะ โอ้ย....ฮึก อึก จะเจ็บ ฮือ”เสียงแบคฮยอนดังขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะที่ผมกระแทกกระทั้นท่อนเนื้อเข้าออก มันไม่ได้เร็วได้ตามใจผม เพราะแบคฮยอนรัดผมแน่นมาก


            “เรียกฉัน เรียกฉันสิ”ผมบอกเขาเสียงกระเส่าตามแรงกระแทก แบคฮยอนส่ายหน้าไปมาด้วยแรงอารมณ์ ตัวเขาโยกไปตามแรงที่ผมกระแทกจนผมต้องจับสะโพกเขาให้สวนกลับเข้ามารับท่อนเนื้อของผมได้ลึกขึ้น


            “ฮึก อื้อ อ๊ะอ๊ะ ชะชานยอล อื้ออ ชานยอล”แค่ผมได้ยินเสียงเขาครางผมก็แทบจะคลั่งแล้ว นี่แถมเขาเรียกผมด้วยชื่อที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดอีก ผมใช้มือทั้งสองจับสะโพกเขาให้กระแทกสวนเข้ามาหาผม และเพิ่มจังหวะเข้าออกๆ จนสองครั้งสุดท้ายผมก็ได้ขึ้นสวรรค์


            ผมแช่ท่อนเนื้อแข็งไว้ภายในตัวเขา ปล่อยให้น้ำคาวขุ่นพวยพุ่งอยู่ภายในตัวแบคฮยอนจนสุด แล้วค่อยถอนออก แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ เขา แบคฮยอนนอนนิ่งหอบหายใจถี่อยู่ข้างๆ ผม เขายังคงสะอื้นไห้อยู่ ตัวสั่นเทาและเมื่อผมปลายตามอง เขาก็ขดตัวตะแคงข้างหนีหน้าผม


            ขาอ่อนตรงสะโพกของเขาสั่นนิดๆ จากกิจกรรมเมื่อครู่ ผมเห็นน้ำคาวขุ่นของผมไหลเยิ้มออกมาเปรอะเปื้อน รอยแดงช้ำรอบๆ ตัวเขาและแรงสั่นเทาจากการสะอื้นที่ตัวเขา ทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจ ผมลุกขึ้นเอื้อมผ้าห่มบางมาปิดตัวให้เขา สมองผมแทบจะตื้อคิดอะไรไม่ออกหลังจากที่เห็นสภาพเขาหลังจากที่โดนผม “ข่มขืน”

>>กลับไปอ่านต่อแล้วก็เม้นที่  http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1122693&chapter=11  นะคะ <<