Wednesday, April 16, 2014

Empire Vampire 11 คืนต้องห้าม Hunhan [NC 18+]


            โอเซฮุนทำท่าสูดลมหายใจ รับกลิ่นเลือดที่ลำคอผม และใช้ปลายนิ้วชี้บังคับให้ผมเอียงคอไปอีกด้าน เขาส่งยิ้มอย่างสมเพชมาให้ผม ริมฝีปากของเขายกยิ้มขึ้นจนผมเห็นความแหลมของฟัน


            “ไม่นะ โอเซฮุน นี่ฉันลู่หาน ลู่หานไง!”ผมใช้ความพยายามเฮือกสุดท้าย ผมกลัวว่าถ้าไม่พูดหรือไม่ต่อต้านอะไรออกไปบ้าง โอเซฮุนเขาต้องกัดผมแน่ๆ และดูเหมือนมันจะได้ผล โอเซฮุนชะงักไปนิดหน่อย เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผมจึงใช้จังหวะนั้น วิ่งหนีไปทางประตูห้อง


            “....!!! โอ้ย อย่า โอเซฮุนปล่อย”ผมถูกเขาคว้าเอวรั้งขึ้นสูงแล้วพาเดินมาที่เตียง เขาทิ้งผมลงที่เตียงนอนอย่างแรงจนผมรู้สึกปวด


            “ลู่หานไหน ฉันไม่รู้จัก แต่ก็นับถือในความกล้านะ ที่เข้ามาให้ฆ่าถึงที่”เขาพูดเสียงเรียบๆ สายตาเย็นชานั้นจ้องเขม็งมาที่ผมไม่มีการละไปไหน สิ่งที่เขาพูดผมพอจะเข้าใจว่าเขาอยากฆ่าผม แต่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตรงหน้านั้นผมไม่เข้าใจ


            โอเซฮุนยืนจ้องผมอยู่ที่ปลายเตียง มือของเขาก็ทำการปลดเปลื้องเสื้อออกจากตัว ถึงผมจะตกใจรอยแผลตามตัวของเขา แต่ก้ไม่เท่าที่เขากำลังคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงหรอก ถ้าจะฆ่าทำไมต้องถอดเสื้อแล้วทำหน้าหื่นกามขนาดนี้ด้วย


            “....จะทำอะไร! อย่านะ”ผมกำเสื้อของผมแน่น เมื่อมือของเขาทั้งสองข้างพยายามจะฉีกมันออก เมื่อผมกำเสื้อไว้เขาก็เปลี่ยนเป็นพยายามดึงกางเกงผมออกแทน จนผมต้องละมือจากเสื้อไปจับกางเกงแทนอีก เขาจ้องหน้าผมด้วยแววตาดุร้ายที่ไม่ใช่ตัวเขา

            เพี๊ยะ! สิ้นเสียงนั้น ผมหลับตาแน่นและรู้สึกชาๆ ที่แก้มข้างซ้าย นี่เขา “ตบ” ผมหรอ? ผมไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นอีก ไม่อยากเห็นหน้าคนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จัก แต่ถึงแม้ว่าจะหลับตาอยู่ น้ำตาก็ยังพากันไหลออกไปอยู่ดี แขนผมอ่อนแรงจนโอเซฮุนกระชากเสื้อผ้าผมขาดหลุดลุ่ยกระจายออกไม่เหลือชิ้นดี


            “ฮึก อึก อะโอเซฮุน โอ้ย!”ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อจะพยายามเรียกสติเขา แต่ก็ต้องจบลงด้วยเสียงร้องของความเจ็บปวด กรงเล็บของเขาลากผ่านหน้าอกผมลงไปถึงท้อง ไม่นานเลือดหยดน้อยๆ ก็พากันไหลออกมาจากรอยแผล ผมเจ็บ และไม่อยากจะคิดถึงเรื่องต่อจากนี้ว่าผมต้องเจออะไรบ้าง

            “พวกแกฆ่าซูจอง! พวกแกฆ่าคนรักของฉัน!”เขาตะคอกผมเสียงแหบพร่า ผมรู้ว่าที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะอดีตที่ฝังใจของเขา และเพราะผมมีเลือดของไลเคนท์ทำให้เขาคลั่งขนาดนี้ แต่ทำไมเขาต้องเหมารวมว่าไลเคนท์ทั้งหมดไม่ดี ตอนที่เขามีสติดีอยู่ เขาเคยดีกับผม เขาคอยบอกว่าจะดูแลผม


            “ฮึก โอเซฮุน ฮึก ฮือ ฉันลู่หาน...คนที่นา...อื้อ”เขาไม่เคยรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด ริมฝีปากของเขาเบียดเข้ามาจูบปากผมอย่างรุนแรง ปากผมถูกบดขยี้จนได้รสเลือด โอเซฮุนพยายามดูดดุนแผลที่ริมฝีปากของผมเพื่อรับเลือดไป ก่อนจะถอนจูบออก


            “เลือดสกปรก!”เขาเช็ดหยดเลือดของผมออกจากมุมปาก พอพูดเสร็จเขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมากดย้ำที่ขอบแผลบริเวณริมฝีปากผม


            “โอ้ย! ฮึก ฮือฮึก”ผมได้แต่ร้องบอกอย่างเจ็บปวดและส่งสายตาอ้อนวอนเขาให้หยุด แต่ก็คงไม่ได้ผล สีหน้าเขาดูภาคภูมิใจที่ผมเจ็บ ที่ผมร้องไห้ ..........โอเซฮุนคนเดิมหายไปไหน

            ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบหนีเขา พยายามยกท่อนขาเพื่อดีดดิ้นให้เขาออกไปห่างๆ จากผม แต่ผลของมันเป็นศูนย์แถมติดลบอีกต่างหาก โอเซฮุนจับขาผมให้อยู่นิ่งๆ แถมกรงเล็บฝังลงบริเวณที่เขาจับอีก

            “ดิ้นนักใช่มั้ย!”สิ้นเสียงขู่ของเขา ข้อเท้าของผมก็ถูกรัดไว้ด้วยโซ่ที่เคยล่ามเขาไว้ เขาใส่โซ่ที่ขาผมทั้งสองข้าง แรงยึดของโซ่ทำให้ผมปวดไปทั้งท่อนขา เขาแยกขาผมออกกว้างก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลาง

            ภาพในตาของผมพร่ามัวไปหมด ร่างกายของผมที่ไม่มีอะไรปกปิด แปดเปื้อนไปด้วยรอยเล็บรอยข่วนต่างๆ นานา ที่เขาทำไว้ ร้ายที่สุดคือสายตาของคนที่มองผมอยู่ สายตาของเขาทำให้ผมข่มตาลง หัวสมองพลันหวนนึกถึงภาพในอดีตของคนตรงหน้า ที่ผมเห็นเขาร่ำไห้เพราะเสียคนรักไป ภาพที่เขาเจ็บปวดและตัดมาเป็นภาพที่เราสองคนมีความทรงจำที่ดีต่อกัน ภาพที่เขาจูบผมอย่างแผ่วเบา สิ่งเหล่านั้นบีบคั้นออกมาเป็นน้ำตาและเสียงสะอื้นดังแข่งกับสายฝนที่ตกลงมาในตอนนี้


            มือหยาบเลื่อนมาบีบเค้นที่รอบเอวเลื่อนลงไปที่สะโพก มันทำให้ผมเบิกตากว้างอีกครั้ง


            “อะอะ โอเซฮุน อื้ออ”โอเซฮุนโน้มตัวมาปรนจูบ มอบความอึดอัดและเจ็บปวดให้เมื่อกลีบปากแข็งของเขาโดนที่แผลช้ำ ชั่วพริบตาที่เขาจูบผม เขาก็เปลื้องกางเกงผ้าเนื้อดีออกจากตัว และยืดตัวขึ้นคร่อมผมไว้ ผมพยายามเอียงหนีสัมผัสจาบจ้วงรุนแรงของเขา แต่ทำไปก็เหมือนไร้ค่า ผมไม่มีหนทางที่จะหนีออกไปได้เลย


            แผ่นหลังแอ่นสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายยอดอกถูกบิดขยี้อย่างไม่ปราณี นิ้วมือร้อนผ่าวลากเลื่อนต่ำลงเปลี่ยนจุดหมายไปเป็นส่วนกลางลำตัวไวสัมผัสแล้วชักขึ้นลงด้วยแรงบีบรุนแรงที่ไม่ได้ปราถนาให้เกิดความรัญจวน


            “ไม่...ฮึก ไม่นะ ฮือ”ผมพยายามพร่ำบอกเขาพรางส่ายหน้าไปมาไม่หยุดนิ่ง ผมรู้สึกถึงความแค้นของเขา เหมือนว่าเขาอยากจะฆ่าผมให้ตายคามือ

            “โอ้ย!!...”เสียงร้องของผมดังขึ้น เมื่อความรุนแรงทวีขึ้นทุกขณะ มือข้างที่บดขยี้ติ่งไตบนอกก็รุนแรงจนเหมือนจะให้มันหลุดออกมาคามือ ส่วนมือที่กุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ก็บีบรัดจนผมแทบจะขาดใจ


            ไม่นานเขาก็ปล่อยมือออกจากตัวผมทั้งสองข้าง และยังไม่ทันที่ผมจะตกตวงลมหายใจได้ทั่วปอด มือใหญ่ก็บีบเค้นที่เนื้อสะโพกและต้นขาของผมอีกครั้ง ทุกทางที่เขาลากผ่าน ไม่เคยมีที่ไหนที่จะไม่ฝากรอยแดงช้ำไว้บนร่างกายผม มันเจ็บ จนชินชาไปหมดแล้ว


            น้ำตาเม็ดโตล่วงลงเมื่อเขาจับตัวผมให้พลิกหันนอนคว่ำลง แล้วยึดบั้นท้ายเอาไว้แน่น สายน้ำตาล่วงลงยังหมอนหยดแล้วหยดเล่า เหมือนพวกมันจะรู้ชะตากรรมของผมและพากันไหลหนีไป

            มือหยาบแหวกเนินเนื้อต้นขาด้านหลังให้แยกออกห่างจากกันแล้วกระแทกส่วนกลางลำตัวของเขา อัดรวดเดียวเข้าไปทั้งหมดภายในครั้งเดียว


            “อ่า อา...”เสียงครางต่ำของเขาดังขึ้นเมื่อท่อนเนื้อแข็งของเขาเข้าไปในตัวผม ส่วนผมนั้นทำได้แค่กัดริมฝีปากระงับความรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนกับว่าร่างกายถูกแยกให้แตกสลาย กัดจนเลือดผุดออกมาคาวคุ้งในปากผม


            “เจ็บ!!!! โอ้ย เอาออก ฮึกฮือ”และผมก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขากระแทกท่อนเนื้ออุ่นให้ลึกลงไปอีก โดยไม่สนว่าปากทางของผมจะฉีกขาด ผมเจ็บจนรู้สึกได้ว่าบริเวณนั้นมีเลือดไหลออกมา ท่อนเนื้อใหญ่ทะลวงผ่านช่องทางตีบแคบเข้ามาจนสุดทาง โดยไม่มีการเบิกทางหรือช่วยขยายให้ช่องทางเคยชิน

            วินาทีนี้ผมแทบจะไม่ได้สติ ความเจ็บปวดแล่นริ้วเข้ามาประทะผมแทบทุกทาง ได้แต่ปล่อยให้หน้าซุกอยู่ที่หมอนชุ่มเหงื่อตรงหน้า ภาวนาให้เขาอย่าทำร้ายผมไปมากกว่านี้เลย

            “หึ ไลเคนท์อย่างนายก็มีดีนี่”เสียงโอเซฮุนเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทผมอีกครั้ง เขาทำร้ายผมแม้กระทั้งคำพูด แทบไม่หลงเหลืออะไรที่บ่งบอกว่าเขาคือโอเซฮุนคนที่ผมรู้จัก


            “ฮึก เมื่อไหร่ มะ เมื่อไหร่จะฆ่าฉันล่ะ? ฮึก ถ้าจะทำแบบนี้ ค่ะฆ่าฉันเลย”ผมพยายามเปล่งเสียงพูดออกไปให้เขาได้ยิน และดูเหมือนเขาก็ฟังผมอยู่ อุ้งมือเขาบีบเค้นที่เนื้อสะโพกของผมอย่างแรงก่อนจะตอบ


            “ไม่ต้องห่วง ฉันฆ่านายแน่ จะเอาให้ตายคาอกเลยไง”สิ้นเสียงของเขาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าลงมา เหมือนกับเป็นคำพิพากษาที่เขาให้กับผม โอเซฮุนจับสะโพกยึดแน่นก่อนจะสวนท่อนเนื้อใหญ่เข้าออกที่ช่องทางคับแน่นอย่างรุนแรง เสียงสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดของผมดังแข่งกับสายฝนยามค่ำคืน อุณภูมิร้อนระอุ ทั้งๆ ที่ฝนน่าจะทำให้เย็นสบาย


            สมองผมเบลอไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดที่เขามอบให้มันไม่เคยจะลดลงเลย ความรุนแรงถาโถมกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับพายุฝนภายนอก แม้ว่าสมองจะไม่สามารถสั่งการให้ผมขยับไปไหนได้ แต่จมูกผมยังคงสูดรับอากาศเพื่อต่อชีวิต ร่างกายโยกคลอนไปข้างหน้าทุกครั้งที่เขาขยับสอดใส่เข้ามา เสียงสะอื้นขาดห้วงของผมก็ดังไม่ขาดสาย


            โอเซฮุนยังคงพยายามดุนดันท่อนเนื้อเอ็นร้อนเข้าไปอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าเท่าไหร่เขาก็ไม่สาแก่ใจ เขาเพิ่มแรงอัดจนสะโพกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนที่ซอกขา ผมไม่อยากรับรู้ว่ามันจะเป็นเลือดจากแผลหรือน้ำรักของเขา ถึงตอนนี้ผมอยากจะตายไปมากกว่าที่จะมารับรู้เรื่องเลวร้ายที่เขากำลังยัดเยียดให้

            “พะพอแล้ว”ผมไม่รู้เวลาล่วงผ่านมานานแค่ไหน เรียวขาของผมสั่นระริกทุกครั้งที่เขาขยับกายเข้าออกอย่างรุนแรง แทบจะตั้งไว้ไม่อยู่ แต่มือของคนข้างบนก็รั้งไว้ไม่ให้ตก ทั้งเจ็บแสบทั้งระบม เสียงฟ้าผ่าแลบจนผมเห็นแสงสะท้อนเข้ามาในห้อง และคงเป็นแสงสุดท้ายที่ผมเห็นหลังจากที่สติผมจะหายไป

>>กลับไปอ่านต่อแล้วก็เม้นที่  http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1122693&chapter=13  นะคะ << 

No comments:

Post a Comment