โอเซฮุนทำท่าสูดลมหายใจ
รับกลิ่นเลือดที่ลำคอผม และใช้ปลายนิ้วชี้บังคับให้ผมเอียงคอไปอีกด้าน เขาส่งยิ้มอย่างสมเพชมาให้ผม
ริมฝีปากของเขายกยิ้มขึ้นจนผมเห็นความแหลมของฟัน
“ไม่นะ โอเซฮุน นี่ฉันลู่หาน ลู่หานไง!”ผมใช้ความพยายามเฮือกสุดท้าย
ผมกลัวว่าถ้าไม่พูดหรือไม่ต่อต้านอะไรออกไปบ้าง โอเซฮุนเขาต้องกัดผมแน่ๆ และดูเหมือนมันจะได้ผล
โอเซฮุนชะงักไปนิดหน่อย เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผมจึงใช้จังหวะนั้น
วิ่งหนีไปทางประตูห้อง
“....!!!
โอ้ย อย่า โอเซฮุนปล่อย”ผมถูกเขาคว้าเอวรั้งขึ้นสูงแล้วพาเดินมาที่เตียง
เขาทิ้งผมลงที่เตียงนอนอย่างแรงจนผมรู้สึกปวด
“ลู่หานไหน ฉันไม่รู้จัก
แต่ก็นับถือในความกล้านะ ที่เข้ามาให้ฆ่าถึงที่”เขาพูดเสียงเรียบๆ
สายตาเย็นชานั้นจ้องเขม็งมาที่ผมไม่มีการละไปไหน
สิ่งที่เขาพูดผมพอจะเข้าใจว่าเขาอยากฆ่าผม แต่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตรงหน้านั้นผมไม่เข้าใจ
โอเซฮุนยืนจ้องผมอยู่ที่ปลายเตียง
มือของเขาก็ทำการปลดเปลื้องเสื้อออกจากตัว ถึงผมจะตกใจรอยแผลตามตัวของเขา
แต่ก้ไม่เท่าที่เขากำลังคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงหรอก
ถ้าจะฆ่าทำไมต้องถอดเสื้อแล้วทำหน้าหื่นกามขนาดนี้ด้วย
“....จะทำอะไร! อย่านะ”ผมกำเสื้อของผมแน่น
เมื่อมือของเขาทั้งสองข้างพยายามจะฉีกมันออก เมื่อผมกำเสื้อไว้เขาก็เปลี่ยนเป็นพยายามดึงกางเกงผมออกแทน
จนผมต้องละมือจากเสื้อไปจับกางเกงแทนอีก
เขาจ้องหน้าผมด้วยแววตาดุร้ายที่ไม่ใช่ตัวเขา
เพี๊ยะ! สิ้นเสียงนั้น
ผมหลับตาแน่นและรู้สึกชาๆ ที่แก้มข้างซ้าย นี่เขา “ตบ”
ผมหรอ? ผมไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นอีก ไม่อยากเห็นหน้าคนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จัก แต่ถึงแม้ว่าจะหลับตาอยู่
น้ำตาก็ยังพากันไหลออกไปอยู่ดี แขนผมอ่อนแรงจนโอเซฮุนกระชากเสื้อผ้าผมขาดหลุดลุ่ยกระจายออกไม่เหลือชิ้นดี
“ฮึก อึก อะโอเซฮุน โอ้ย!”ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อจะพยายามเรียกสติเขา แต่ก็ต้องจบลงด้วยเสียงร้องของความเจ็บปวด กรงเล็บของเขาลากผ่านหน้าอกผมลงไปถึงท้อง ไม่นานเลือดหยดน้อยๆ ก็พากันไหลออกมาจากรอยแผล ผมเจ็บ และไม่อยากจะคิดถึงเรื่องต่อจากนี้ว่าผมต้องเจออะไรบ้าง
“พวกแกฆ่าซูจอง! พวกแกฆ่าคนรักของฉัน!”เขาตะคอกผมเสียงแหบพร่า
ผมรู้ว่าที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะอดีตที่ฝังใจของเขา และเพราะผมมีเลือดของไลเคนท์ทำให้เขาคลั่งขนาดนี้
แต่ทำไมเขาต้องเหมารวมว่าไลเคนท์ทั้งหมดไม่ดี ตอนที่เขามีสติดีอยู่ เขาเคยดีกับผม
เขาคอยบอกว่าจะดูแลผม
“ฮึก โอเซฮุน ฮึก ฮือ
ฉันลู่หาน...คนที่นา...อื้อ”เขาไม่เคยรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด
ริมฝีปากของเขาเบียดเข้ามาจูบปากผมอย่างรุนแรง ปากผมถูกบดขยี้จนได้รสเลือด
โอเซฮุนพยายามดูดดุนแผลที่ริมฝีปากของผมเพื่อรับเลือดไป ก่อนจะถอนจูบออก
“เลือดสกปรก!”เขาเช็ดหยดเลือดของผมออกจากมุมปาก พอพูดเสร็จเขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมากดย้ำที่ขอบแผลบริเวณริมฝีปากผม
“โอ้ย! ฮึก
ฮือฮึก”ผมได้แต่ร้องบอกอย่างเจ็บปวดและส่งสายตาอ้อนวอนเขาให้หยุด แต่ก็คงไม่ได้ผล
สีหน้าเขาดูภาคภูมิใจที่ผมเจ็บ ที่ผมร้องไห้ ..........โอเซฮุนคนเดิมหายไปไหน
ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบหนีเขา
พยายามยกท่อนขาเพื่อดีดดิ้นให้เขาออกไปห่างๆ จากผม
แต่ผลของมันเป็นศูนย์แถมติดลบอีกต่างหาก โอเซฮุนจับขาผมให้อยู่นิ่งๆ
แถมกรงเล็บฝังลงบริเวณที่เขาจับอีก
“ดิ้นนักใช่มั้ย!”สิ้นเสียงขู่ของเขา
ข้อเท้าของผมก็ถูกรัดไว้ด้วยโซ่ที่เคยล่ามเขาไว้ เขาใส่โซ่ที่ขาผมทั้งสองข้าง
แรงยึดของโซ่ทำให้ผมปวดไปทั้งท่อนขา
เขาแยกขาผมออกกว้างก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลาง
ภาพในตาของผมพร่ามัวไปหมด
ร่างกายของผมที่ไม่มีอะไรปกปิด แปดเปื้อนไปด้วยรอยเล็บรอยข่วนต่างๆ นานา
ที่เขาทำไว้ ร้ายที่สุดคือสายตาของคนที่มองผมอยู่ สายตาของเขาทำให้ผมข่มตาลง
หัวสมองพลันหวนนึกถึงภาพในอดีตของคนตรงหน้า ที่ผมเห็นเขาร่ำไห้เพราะเสียคนรักไป
ภาพที่เขาเจ็บปวดและตัดมาเป็นภาพที่เราสองคนมีความทรงจำที่ดีต่อกัน
ภาพที่เขาจูบผมอย่างแผ่วเบา สิ่งเหล่านั้นบีบคั้นออกมาเป็นน้ำตาและเสียงสะอื้นดังแข่งกับสายฝนที่ตกลงมาในตอนนี้
มือหยาบเลื่อนมาบีบเค้นที่รอบเอวเลื่อนลงไปที่สะโพก
มันทำให้ผมเบิกตากว้างอีกครั้ง
“อะอะ โอเซฮุน
อื้ออ”โอเซฮุนโน้มตัวมาปรนจูบ
มอบความอึดอัดและเจ็บปวดให้เมื่อกลีบปากแข็งของเขาโดนที่แผลช้ำ
ชั่วพริบตาที่เขาจูบผม เขาก็เปลื้องกางเกงผ้าเนื้อดีออกจากตัว และยืดตัวขึ้นคร่อมผมไว้
ผมพยายามเอียงหนีสัมผัสจาบจ้วงรุนแรงของเขา แต่ทำไปก็เหมือนไร้ค่า
ผมไม่มีหนทางที่จะหนีออกไปได้เลย
แผ่นหลังแอ่นสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายยอดอกถูกบิดขยี้อย่างไม่ปราณี
นิ้วมือร้อนผ่าวลากเลื่อนต่ำลงเปลี่ยนจุดหมายไปเป็นส่วนกลางลำตัวไวสัมผัสแล้วชักขึ้นลงด้วยแรงบีบรุนแรงที่ไม่ได้ปราถนาให้เกิดความรัญจวน
“ไม่...ฮึก ไม่นะ
ฮือ”ผมพยายามพร่ำบอกเขาพรางส่ายหน้าไปมาไม่หยุดนิ่ง ผมรู้สึกถึงความแค้นของเขา
เหมือนว่าเขาอยากจะฆ่าผมให้ตายคามือ
“โอ้ย!!...”เสียงร้องของผมดังขึ้น
เมื่อความรุนแรงทวีขึ้นทุกขณะ มือข้างที่บดขยี้ติ่งไตบนอกก็รุนแรงจนเหมือนจะให้มันหลุดออกมาคามือ
ส่วนมือที่กุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ก็บีบรัดจนผมแทบจะขาดใจ
ไม่นานเขาก็ปล่อยมือออกจากตัวผมทั้งสองข้าง
และยังไม่ทันที่ผมจะตกตวงลมหายใจได้ทั่วปอด มือใหญ่ก็บีบเค้นที่เนื้อสะโพกและต้นขาของผมอีกครั้ง
ทุกทางที่เขาลากผ่าน ไม่เคยมีที่ไหนที่จะไม่ฝากรอยแดงช้ำไว้บนร่างกายผม มันเจ็บ
จนชินชาไปหมดแล้ว
น้ำตาเม็ดโตล่วงลงเมื่อเขาจับตัวผมให้พลิกหันนอนคว่ำลง
แล้วยึดบั้นท้ายเอาไว้แน่น สายน้ำตาล่วงลงยังหมอนหยดแล้วหยดเล่า
เหมือนพวกมันจะรู้ชะตากรรมของผมและพากันไหลหนีไป
มือหยาบแหวกเนินเนื้อต้นขาด้านหลังให้แยกออกห่างจากกันแล้วกระแทกส่วนกลางลำตัวของเขา
อัดรวดเดียวเข้าไปทั้งหมดภายในครั้งเดียว
“อ่า
อา...”เสียงครางต่ำของเขาดังขึ้นเมื่อท่อนเนื้อแข็งของเขาเข้าไปในตัวผม
ส่วนผมนั้นทำได้แค่กัดริมฝีปากระงับความรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนกับว่าร่างกายถูกแยกให้แตกสลาย
กัดจนเลือดผุดออกมาคาวคุ้งในปากผม
“เจ็บ!!!!
โอ้ย เอาออก ฮึกฮือ”และผมก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขากระแทกท่อนเนื้ออุ่นให้ลึกลงไปอีก
โดยไม่สนว่าปากทางของผมจะฉีกขาด ผมเจ็บจนรู้สึกได้ว่าบริเวณนั้นมีเลือดไหลออกมา
ท่อนเนื้อใหญ่ทะลวงผ่านช่องทางตีบแคบเข้ามาจนสุดทาง โดยไม่มีการเบิกทางหรือช่วยขยายให้ช่องทางเคยชิน
วินาทีนี้ผมแทบจะไม่ได้สติ
ความเจ็บปวดแล่นริ้วเข้ามาประทะผมแทบทุกทาง
ได้แต่ปล่อยให้หน้าซุกอยู่ที่หมอนชุ่มเหงื่อตรงหน้า
ภาวนาให้เขาอย่าทำร้ายผมไปมากกว่านี้เลย
“หึ
ไลเคนท์อย่างนายก็มีดีนี่”เสียงโอเซฮุนเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทผมอีกครั้ง
เขาทำร้ายผมแม้กระทั้งคำพูด แทบไม่หลงเหลืออะไรที่บ่งบอกว่าเขาคือโอเซฮุนคนที่ผมรู้จัก
“ฮึก เมื่อไหร่ มะ
เมื่อไหร่จะฆ่าฉันล่ะ? ฮึก ถ้าจะทำแบบนี้ ค่ะฆ่าฉันเลย”ผมพยายามเปล่งเสียงพูดออกไปให้เขาได้ยิน
และดูเหมือนเขาก็ฟังผมอยู่ อุ้งมือเขาบีบเค้นที่เนื้อสะโพกของผมอย่างแรงก่อนจะตอบ
“ไม่ต้องห่วง ฉันฆ่านายแน่ จะเอาให้ตายคาอกเลยไง”สิ้นเสียงของเขาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าลงมา
เหมือนกับเป็นคำพิพากษาที่เขาให้กับผม
โอเซฮุนจับสะโพกยึดแน่นก่อนจะสวนท่อนเนื้อใหญ่เข้าออกที่ช่องทางคับแน่นอย่างรุนแรง
เสียงสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดของผมดังแข่งกับสายฝนยามค่ำคืน อุณภูมิร้อนระอุ
ทั้งๆ ที่ฝนน่าจะทำให้เย็นสบาย
สมองผมเบลอไปชั่วขณะ
ความเจ็บปวดที่เขามอบให้มันไม่เคยจะลดลงเลย
ความรุนแรงถาโถมกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับพายุฝนภายนอก
แม้ว่าสมองจะไม่สามารถสั่งการให้ผมขยับไปไหนได้
แต่จมูกผมยังคงสูดรับอากาศเพื่อต่อชีวิต ร่างกายโยกคลอนไปข้างหน้าทุกครั้งที่เขาขยับสอดใส่เข้ามา
เสียงสะอื้นขาดห้วงของผมก็ดังไม่ขาดสาย
โอเซฮุนยังคงพยายามดุนดันท่อนเนื้อเอ็นร้อนเข้าไปอย่างรุนแรง
ดูเหมือนว่าเท่าไหร่เขาก็ไม่สาแก่ใจ เขาเพิ่มแรงอัดจนสะโพกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนที่ซอกขา
ผมไม่อยากรับรู้ว่ามันจะเป็นเลือดจากแผลหรือน้ำรักของเขา ถึงตอนนี้ผมอยากจะตายไปมากกว่าที่จะมารับรู้เรื่องเลวร้ายที่เขากำลังยัดเยียดให้
“พะพอแล้ว”ผมไม่รู้เวลาล่วงผ่านมานานแค่ไหน
เรียวขาของผมสั่นระริกทุกครั้งที่เขาขยับกายเข้าออกอย่างรุนแรง แทบจะตั้งไว้ไม่อยู่
แต่มือของคนข้างบนก็รั้งไว้ไม่ให้ตก ทั้งเจ็บแสบทั้งระบม เสียงฟ้าผ่าแลบจนผมเห็นแสงสะท้อนเข้ามาในห้อง
และคงเป็นแสงสุดท้ายที่ผมเห็นหลังจากที่สติผมจะหายไป
>>กลับไปอ่านต่อแล้วก็เม้นที่ http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1122693&chapter=13 นะคะ <<
No comments:
Post a Comment